วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยว

เพลินวาน หัวหิน 

  ประวัติเพลินวาน


   เพลินวานตลาดย้อนยุคแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของหัวหินที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานและมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาย้อนรำลึกวันวานอยู่เสมอโดยส่วนแรกที่เปิดไปแล้วนั้นมีทั้งร้านกาแฟโบราณ ร้านข้าวอุ่นแกงร้อนร้านเหล้าเพลินสำราญ ห้องเสื้อไฉไล ร้านของเล่นเพลินวาน และร้านเพลินวานไอศกรีมแต่ละร้านตกแต่งด้วยของเก่าที่หาชมยากชวนให้ตื่นเต้นและสนุกสนานไปกับการลิ้มชิมรสขนมโบราณและสนุกสนานไปกับการเลือกชมเลือกซื้อของเล่นสังกะสี รถตุ๊กตุ๊ก เรือป๊อกแป๊กตุ๊กตากระดาษและอื่นๆ อีกมากมายซี่งสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ตลาดโบราณแห่งนี้และความประทับใจก็กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อตลาดเพลินวานเปิดตัวเฟส 2 ในวันที่ 1 ต.ค. 2552 ที่ผ่านมาโดยเฟส 2 นี้จะมีร้านค้าเปิดใหม่ประมาณ 40 ร้านและเป็นโซนลานกิจกรรมที่จะมีการฉายหนังกลางแปลงในแบบฉบับงานวัดสามารถเลือกซื้อเทปคาสเซ็ตเพลงไพเราะคุ้นหูของวันวาน วิดีโอหนังรักวัยหวานใบปิดหนังดัง รวมถึงดาราในดวงใจ พร้อมกับเก็บภาพมุมเก่าๆ ในเพลินวานไว้เป็นที่ระลึกหากอยากพักผ่อนก็สามารถเลือกบริการโซนที่พักสไตล์สแกนดิเนเวียนซึ่งถือเป็นสไตล์เก่าแก่ที่เข้ามาในช่วง 2499 ที่พิมานเพลินวานซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 พ.ย. นี้นอกจากนี้ทุกวันศุกร์,เสาร์,อาทิตย์ท่านจะได้เพลิดเพลินกับการถ่ายทอดบทเพลงสุดพิเศษจากยุค 70 ในแนวอคูสติกเคล้ากับบรรยากาศของวันวาน โดยเฟส 2 ของเพลินวานจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่22 ตุลาคม 2552
กล่าวได้ว่ามาที่เพลินวานแห่งนี้อดีตอันหวานชื่นจะย้อนกลับมาให้ได้ระลึกถึงความสุขถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการท่องเที่ยวในหัวหินสำหรับคู่รักและครอบครัวที่มีรสนิยมในการชอบของแนวคลาสสิกที่ดีทีเดียว
    นอกจากที่หัวหินจะมีน้ำทะเลสวยๆ ชายหาด หาดทรายที่ทอดยาว ยังมีสถานที่ที่ซึ่งให้คุณหวนละรึกถึงความหลัง วันวาน อันแสนหวาน ความทรงจำที่คุณไม่ควรพลาด กับสถานที่ท่องเที่ยว เพลินวาน หัวหิน แม้จะเปิดมานานนแล้ว แต่...เอ! ไม่ใช่สิ! เปิดได้ซักระยะหนึ่ง แต่ด้วยชื่อที่ติดปาก ความประทับใจของผู้ที่เคยแวะเที่ยวที่เพลินวาน ต่างบอกกันปากต่อปากว่า เพลินวาน หัวหิน น่าเที่ยว และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณ..ไม่ควรพลาด!! เ พ ลิ น ว า น เยี่ยมชม “เพลินวาน” หมู่บ้านย้อนยุคมีชีวิต ชิมรสอาหาร-ขนมอร่อย เลือกซื้อเสื้อผ้า ดูหนังกลางแปลง สัมผัสบรรยากาศแห่งอดีตปี พ.ศ.2499 หัวหิน ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่พักผ่อน ของผู้มีฐานะดีในสมัยก่อน และเป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีชื่อเสียงในยุคต่อมา ผู้คนมากมายมีความทรงจำดีๆ ต่อเมืองชายทะเลแห่งนี้การได้กลับมาเห็นภาพชีวิตเฉกเช่นในวันวานจึงเป็นสิ่งที่หลายคนถวิลหาวันนี้เมื่อกลุ่มคนที่หลงรักอดีตของหัวหินร่วมกันเนรมิตบ้านเรือน ร้านค้า ร้านกาแฟ ที่เคยอยู่ในภาพถ่ายให้มีชีวิตขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อให้เป็นจุดหมายใหม่ในการเดินทางสู่เมืองหัวหินในนามของ เพลินวาน ” ศูนย์รวมความสุข สถานที่ซึ่งหยุดเวลาในอดีตไว้ เพื่อเล่าขานเรื่องราวมากมายของวีถีหัวหินกาลก่อน สู่กาลปัจจุบัน” จึงได้รับความสนใจไม่น้อยจากนักท่องเที่ยว  เพลินวาน มีลักษณะคล้ายหมู่บ้านย้อนยุคที่มีชีวิต (Eco Vintage Village) ที่มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านเสื้อผ้า ร้านขายขนม ร้านเหล้าในสมัยก่อน รูปแบบของหมู่บ้านนี้จะร้านค้าที่ทำจากไม้ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในช่วง พ.ศ.2499 อีกครั้ง เป็นสถานที่ที่เน้นการขายอารมณ์และความรู้สึกมากกว่าตัวผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นข้าวของที่ใช้ในการตกแต่ง เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของพนักงานซึ่งจะเป็นของที่ใช้จริงในสมัยนั้น แต่ที่โดดเด่นไม่เหมือนที่อื่นก็คือข้าวของที่นี่สามารถซื้อขายได้จริง ไม่ใช่แค่ตั้งโชว์เหมือนพิพิธภัณฑ์
       นอกจากนี้เพลินวานยังมีลานกิจกรรมที่จะมีการฉายหนังกลางแปลงในแบบ ฉบับงานวัด สามารถเลือกซื้อเทปคาสเซทเพลงเพราะๆของวันวาน วีดีโอหนังรักวัยหวาน พร้อมเก็บภาพมุมเก่าๆ ในเพลินวานไว้เป็นที่ระลึก หรือจะแวะส่งโปสการ์ดหาเพื่อนที่ไม่ได้มาให้อิจฉาเล่นๆก็สามารถทำได้ 











































วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประวัติหมีพูห์

หมีPooh น่ารักๆ ค่ะ :












ประวัติหมีพูห์


หมีพูห์ หรือ วินนี-เดอะ-พูห์ ( Winnie-the-Pooh) เป็นตัวละครหมีที่สร้างขึ้นโดย เอ. เอ. มิลน์ และตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 14 ตุลาคมค.ศ. 1926 ในหนังสือเรื่อง วินนี-เดอะ-พูห์ และ เดอะเฮาส์แอตพูห์คอร์เนอร์ (1928) เนื้อเรื่องในหนังสือมีลักษณะคล้ายกับ ป่าแอชดาวน์ ในเมือง อีสต์ซัซเซก ในประเทศอังกฤษ โดยชื่อ วินนี มาจากชื่อตุ๊กตาหมีของทหารชาวแคนาดานายหนึ่ง ซึ่งตั้งตามชื่อเมือง วินนีเพก ในประเทศแคนาดา นอกจากหมีพูห์แล้วเพื่อนในป่าที่ได้รับความนิยมได้แก่ พิกเลต ทิกเกอร์ และ อียอร์ต่อมา วอลต์ดิสนีย์ ได้นำวินนี-เดอะ-พูห์ มาจัดทำและได้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น Winnie the Pooh (โดยไม่มีเครื่องหมายขีด) และหมีพูห์ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของดิสนีย์  
หมีที่ชื่อว่า วินนี่ เดอะ พูห์ เป็นผลงานสร้างสรรค์ของเอ.เอ.ไมลน์ ( A.A.Miline) นักเขียนชาวอังกฤษ มีชื่อเต็มว่า อลัน อเล็กซานเดอร์ ไมลน์
ตำนานของหมีพูห์เริ่มจากการที่ทหารกองทัพแคนาดาได้นำหมีน้อยตัวหนึ่ง ชื่อว่า วินนี่ เพ็ก แก่ประเทศอังกฤษ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของการร่วมรบกันระหว่างกองทัพแคนาดาและอังกฤษในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ( ค.ศ.1914-1918)  หมีน้อยตัวนี้ได้ไปอยู่ที่สวนสัตว์กรุงลอนดอน ในปี 1919 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวลอนดอนมาก รวมถึงหนูน้อยคริสโตเฟอร์ โรบิน ลูกชายของนักเขียนชื่อเอ.เอ.ไมล์น 
หนูน้อยคริสโตเฟอร์นำชื่อวินนี่ เพ็ก ไปตั้งชื่อตุ๊กตาหมีตัวโปรดว่า วินนี่ เดอะ พูห์ โดยคำว่า “ พูห์” (Pooh) เป็นชื่อของหงส์ในกวีบทหนึ่ง ต่อมาเอ.เอ.ไมลน์ จึงเริ่มเขียนเรื่องราวของวินนี่ เดอะ พูห์ และเพื่อนพ้องของมัน โดยหนังสือวางจำหน่ายเมื่อปีค.ศ.1926 หรือ 74 ปีที่แล้ว กระทั่งปี 1996 ที่ผ่านมา ยอดขายหนังสือสูงถึง 20 ล้านเล่ม แปลเป็นภาษาต่างๆมากกว่า 25 ภาษา ในขณะเดียวกันวอลต์ ดิสนีย์ ซื้อลิขสิทธิ์หมีพูห์และนำไปสร้างการ์ตูนบนแผ่นฟิล์มในปี 1996 พร้อมกับผลิตภัณฑ์มากมายก่ายกอง ทำให้หมีพูห์เป็นตัวการ์ตูนยอดนิยมอันดับ 2 ของเด็กอเมริกันรองจากมิกกี้ เม้าส์  หมีพูห์รู้ดีว่าเขาต้องการอะไรเมื่อ “ ท้องเริ่มส่งเสียงร้อง” นั่นคือ น้ำผึ้งไง!    อืม... แต่จะทำอย่างไรหากเขาพบเพียงโถเปล่าที่มีน้ำผึ้งเหนียว ๆ 


ต้นกำเนิดหมีพูห์ (Winnie-the-Pooh)
      
    ประมาณเดือนสิงหาคม ในปี ค.ศ. 1914 ซึ่งอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Harry Colebourn สัตวแพทย์ชาวคานาดา ทำงานประจำที่ Fort Garry Horse ใน Winnipeg ได้ถูกส่งตัวไปประจำการที่อังกฤษ ขณะเดินทางไปอังกฤษ ขบวนรถไฟที่เขานั่งไปต้องหยุดจอดที่ White River ใน Ontario เพื่อเปลี่ยนขบวนใหม่ ระหว่างนั้นเขาได้เห็นชายคนหนึ่งกับลูกหมีสีดำ ณ บริเวณชานชาลาของสถานีรถไฟ โดยที่ลูกหมีตัวนั้นถูกผูกกับที่เท้าแขนของเก้าอี้ที่ชายคนนั้นนั่งอยู่ หลังจากที่ Harry Colebourn พูดคุยกับชายคนนั้นทำให้เขารู้ว่า ชายคนนั้นเป็นนักล่าสัตว์ เขาจึงขอซื้อลูกหมีตัวนั้นในราคา 20 เหรียญสหรัฐ และตั้งชื่อให้มันว่า Winnie เขาได้นำ Winnie ไปอยู่กับเขาที่กองทัพด้วย ซึ่งทุกคนในกองทัพก็ถือว่า Winnie เป็นสัตว์นำโชค      

ต่อมาเดือนธันวาคม ในปีเดียวกัน กองทัพที่ Harry Colebourn ประจำการอยู่ ต้องย้ายกำลังพลไปที่ประเทศฝรั่งเศส Harry Colebourn ได้ฝาก Winnie ไว้ที่สวนสัตว์ที่กรุงลอนดอน และเขาคาดการณ์ว่าประมาณ 2 สัปดาห์เขาคงจะเสร็จภารกิจ และกลับมารับ Winnie ได้ แต่เหตุการณ์ไม่ได้เป็นดังที่เขาคิดไว้ สงครามสงบประมาณปี ค.ศ. 1918 Harry Colebourn กลับมาที่สวนสัตว์อีกครั้งเพื่อมารับ Winnie แต่เขาพบว่า Winnie อยู่อย่างมีความสุข ณ สวนสัตว์แห่งนี้ ทั้งคนเลี้ยงและคนที่มาเที่ยวในสวนสัตว์ รักมันมาก เขาจึงตัดสินใจปล่อยให้ Winnie อยู่ที่สวนสัตว์ตามเดิม และมาเยี่ยม Winnie เสมอเมื่อมีโอกาส จนกระทั่ง Winnie เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1934 ส่วน Harry Colebourn ได้กลับมาประจำการอยู่ที่ทำงานเก่าของเขา Fort Garry Horse ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 โดยทำหน้าที่เป็นสัตวแพทย์ ประจำกองทัพ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อปี ค.ศ. 1947
ภาพหมีพูห์